วันอังคารที่ 17 มกราคม พ.ศ. 2560

(ชีวประวัติ) ทรายเม็ดหนึ่ง ตอน.... โครงการบริหารการศึกษา


โครงการบริหารการศึกษา

     ข้าพเจ้ามีความคิดว่า การบริหารการศึกษาของชาติบ้านเมืองเป็นเรื่องสำคัญยิ่งกว่ากิจการอื่นๆ  เพราะการศึกษาเป็นพื้นฐานของความเจริญของชาติ  ถ้าการบริหารการศึกษาล้มเหลว กิจการอื่นก็ล้มเหลวหมด   
     เมื่อไปอยู่เมืองเพชรบุรี  จึงวางโครงการบริหารการศึกษาอย่างมีแผนการ มียุทธศาสตร์ มียุทธวิธี  เราจะทำงานเช้าชามเย็นชามไม่ได้  ขอยืมวันอยู่ ขอยืมเมืองอยู่ไม่ได้
     โครงการที่วางไว้ตามลำดับคือ 
     ๑. โครงการสวดมนต์ไหว้พระ      เอาครูบาอาจารย์มาอบรมเรื่องการสวดมนต์ไหว้พระ  ให้มีการสวดมนต์ไหว้พระทุกวันหน้าโรงเรียน ให้ครูทุกคนสวดมนต์พร้อมนักเรียนในเวลาเช้า เวลาเข้าแถวร้องเพลงชาติหน้าโรงเรียน
     ๒. ตั้งชมรมเบญศีล  เพื่อทำประโยชน์แก่บ้านเมือง
     ๓. ทอดผ้าป่าหาทุนการศึกษา  จัดงานทอดผ้าป่าหาเงินทุนการศึกษาที่วัดเขาตะเครา  ให้ทุกโรงเรียนจัดกองผ้าป่าตั้งกองทุนการศึกษาของโรงเรียน หาได้เท่าไรเป็นของโรงเรียน  จัดตั้งกองทุนไว้ และให้พยายามหาเงินกองทุนโรงเรียนเพิ่มขึ้นทุกปี  คราวนี้ได้เงินทุนรวมท้ังจังหวัด ๗ ล้านบาทเศษ  เชิญเลขาธิการสำนักงานประถมศึกษาแห่งชาติ นายสมาน แสงมะลิเป็นประธาน
     ๔. ตั้งร้านสหกรณ์โรงเรียนขึ้นทุกโรงเรียน  ออกเงินซื้อหุ้นๆละ ๑๐ บาท จัดซื้อเครื่องอุปโภค บริโภคมาจำหน่ายแก่ครู นักเรียน ผู้ปกครอง ฝึกหัดการค้าขายให้เด็ก  บางโรงเรียนมกำไรนับหมื่นบาท
     ๕. จัดต้ังโครงการอาหารกลางวัน  ให้ตั้งครัวจัดทำอาหารกลางวันเลี้ยงเด็ก ใครมีเงินก็ซื้ออาหารรับประทาน ใครไม่มีเงินให้กินฟรี ให้เด็กมีอาหารกลางวันกินทุกคน  
     ๖. ห้องสมุดโรงเรียน  ให้จัดต้ังห้องสมุดโรงเรียนให้จัดหาเงินซื้ัอหนังสือ  โดยจารึกชื่อผู้ซื้อหนังสือให้หรือออกเงินค่าซื้อหนังสือ  ทำให้ทุกโรงเรียนจัดทำห้องสมุดโรงเรียนแข่งขันกัน มีห้องสมุดโรงเรียนทกโรงเรียน
     ๗. จัดต้ังสหกรณ์โรงเรียน  ให้จัดตั้งสหกรณ์ออมทรัพย์ขึ้น  ส่งเงินออกคนละ ๑๐ บาท ตั้งสหกรณ์ออมทรัพย์ มีผู้ปกครองร่วมเป็นสมาชิกด้วย ตั้งกองทุนไว้ให้กู้ยืม คิดดอกเบี้ยเดือนละ ๑ บาท  ต่อเงินกู้ ๑๐๐ บาท  มีเงินสหกรณ์ออมทรัพย์เพิ่มขึ้นทุกปี
     ๘.บริหารการพระศาสนา คือ
          ๘.๑ตั้งมูลนิธิเด็ก หาเงินบำรุงวัดโดยใช้แต่ดอกผล
          ๘.๒ สอนพระธรรมทุกวันพระ  ฝึกหัดพระเณรให้เทศน์และเผยแพร่พระธรรม
          ๘.๓ ตั้งโรงเรียนพุทธศาสนาวันอาทิตย์สอนนักเรียน
          ๘.๔ จัดตั้งห้องสมุดวัด เพื่อเป็นแหล่งศึกษาหาความรู้ของประชาชน
           ๘.๕. ตั้งโรงเรียนฝึกอาชีพ  มีชาวบ้านที่มีความรู้พิเศษมาสอนเด็ก เช่น การดนตรีปี่พาทย์ การช่างฝึมือ
           ๘.๖. ตั้งสถานพยาบาลรักษาโรคภัยไข้เจ็บแก่พุทธศาสนิกชน
           ๘.๗.ทำทะเบียนบัญชีคนเข้าวัด  คนทำบุญไว้เป็นหลักฐาน 
      ๙. สร้างสำนักงานสหกรณ์ออมทรัพย์ครู  ทั้งที่ดินและตัวอาคาร จำนวนเงิน ๑๑ ล้านบาท 
(โปรดติดตามตอนต่อไป)

   

วันจันทร์ที่ 16 มกราคม พ.ศ. 2560

(ชีวประวัติ) ทรายเม็ดหนึ่ง ตอน ..... ย้ายไปอยู่เมืองนนทบุรีศรีมหาอุทยาน


ย้ายไปอยู่เมืองนนทบุรีศรีมหาอุทยาน

     รับราชการอยู่เมืองสมุทรสงคราม ๒๖ ปี ต้ังแต่ศึกษาธิการอำเภอจัดวาจนเป็นผู้ช่วยศึกษาธิการจังหวัด  หัวหน้าส่วนการศึกษา ชั้นเอก และผู้อำนวยการการประถมศึกษาชั้นพิเศษ
     เมื่อถึงคราวจะพ้นหน้าที่ ก็กราบเรียน ฯพณฯ ม.ล. ปิ่น มาลากุล อดึตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการว่าขอไปอยู่เมืองนนทบุรี  ท่านก็กรุณาจัดให้ไปเป็นผู้อำนวยการประถมศึกษาจังหวัดนนทบรุี  ที่พระมหาจักรพรรดิ์โปรดเกล้าฯ ให้ตั้งเป็นเมืองนนทบุรีเมื่อพ.ศ. ๒๐๘๖ พร้อมเมืองนครไชยศรี  เมืองสมุทรสาคร 
     เมื่อไปอยู่เมืองนนทบุรี เมืองพระราชมารดาของพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว ๒ ปี ได้เที่ยวไปทั่วเมืองนนทบุรี มีเรือกสวนร่มเย็น  มีแม่น้ำลำคลอง มีวัดวาอาราม  คล้ายๆกับเมืองสมุทรสงคราม  จึงมีชื่อพระราชทานว่า  เมืองนนทบุรีศรีมหาอุทยาน คู่กับเมืองธนบุรีศรีมหาสมุทร   โดยเฉพาะวัดเฉลิมพระเกียรติที่พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว  สร้างถวายพระราชมารดากรมสมเด็จพระศรีสุราไลย  ณ  นิวาสสถานเดิมของพระราชมารดา เป็นวัดที่มีป้อมปราการเมืองเหมือนป้อมค่ายทหาร  เตรียมไว้รับศึกศัตรู   ข้าพเจ้าไปเดินชมอยู่ด้วยความชื่นชมโสมนัสในพระบุญาบารมีของพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว   
     สถานที่ทำงานของข้าพเจ้าคือโรงเรียนราชวิทยาลัย  ในสมัยรัชกาลพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว  เป็นเรือนไม้สักทั้งหลัง  สร้างสวยงามมาก ข้าพเจ้าได้ทำงาน ณ สถานที่พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าฯ สร้างไว้ ๔ แห่งคือ 
     ๑. ที่ว่าการอำเภอกำแพงแสน  ซึ่งเคยเป็นพระตำหนักของสมเด็ยพระนางเจ้าอินทรศักดิ์ศจี  ข่าพเจ้าเคยนอนและทำงานที่ตำหนักหลังนั้น ๒ ปี 
     ๒. พระราชวังสนามจันทร์ ข้าพเจ้าเคยทำงานที่พระราชวังนี้เป็นเวลารวม ๔ ปี
     ๓. ศาลากลางจังหวัดสมุทรสงคราม  ซึ่งเคยเป็นโรงเรียนพลทหารเรือของพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว   ทรงสร้างไว้ในรัชกาลน้ัน

     สิ่งที่ข้าพเจ้าฝากไว้ในเมืองนนทบุรีคือ สำนักงานการประถมศึกษาจังหวัด  ได้ของบประมาณสร้างสำนักงานใหม่  ที่ข้างวัดลานนาบุญ ซึ่งมีผู้มอบที่ดินให้ประมาณ ๖ ไร่ ได้งบประมาณมาสร้าง ๘,๐๐๐,๐๐๐บาท จึงได้จัดสร้างขึ้นจนเสร็จเรียบร้อยเมื่อเดือนธันวาคม พ.ศ.๒๕๒๖ 
(โปรดติดตามตอนต่อไป)